จีดูบัง ชี้คนไทยหันเข้าร้านอาหารเกาหลีมากขึ้น เผยปัจจุบันสัดส่วนเพิ่มเป็น 70% ดันแบรนด์อาหาร ทะเลพรีเมียม K•Fish เร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์ เชื่อรายได้แตะ 272 ล้านบาทในอีก 5 ปี
นายจุนโฮ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดูบัง จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจาก ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ จะเร่งผลักดันอาหารทะเลภายใต้แบรนด์ เค•ฟิช (K•Fish) ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น หลังจากทำตลาดในเมืองไทยมาประมาณ 3 ปี พบว่ามียอดขายมากกว่า 40 ล้านบาทในปี 2561 และเชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 70 ล้านบาทในปี 2562 มาจากการขยายช่องทางการจำหน่ายของบริษัท และแนวโน้มพฤติกรรม ของผู้บริโภคชาวไทย ที่จะเป็นปัจจัยบวกเอื้อต่อธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยเริ่มให้ความสนใจเข้าใช้บริการร้านอาหารเกาหลีกันมากขึ้น ส่งผลให้ ในปัจจุบันนี้สัดส่วนขึ้นมามากกว่า 70% จากภาพรวมผู้เข้าใช้บริการร้านอาหารเกาหลี หากเปรียบเทียบกับในอดีต จะเห็นได้ว่าผู้ที่รับประทานดังกล่าว จะเป็นกลุ่มคนจากประเทศเกาหลีเองเสียมากกว่าคนไทย หรือมีสัดส่วนมากถึง 80% แต่ในตอนนี้ตลาดคนไทยนับว่ามีความสำคัญต่อผู้ประกอบการร้านอาหารเกาหลี และเชื่อว่าจะยังได้รับความนิยม เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทอยากรุกทำตลาดสินค้าอาหารทะเลภายใต้แบรนด์ เค•ฟิช โดยบริษัท จีดูบัง จำกัด ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารเกาหลีรายใหญ่ในประเทศไทย การลุยทำตลาดอาหารทะเล สัญชาติเกาหลีในครั้งนี้ ก็เพื่อเจาะตลาดสินค้าอาหารทะเลเกาหลีกลุ่มพรีเมี่ยม ซึ่งต้องการให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เข้าถึง สินค้ามากที่สุด ทั้งนี้ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประเทศที่ประกอบด้วยท้องทะเล 3 แห่ง และมีอาหารทะเลคุณภาพสูง ได้ส่งเสริม สินค้าอาหารทะเลเกาหลี และร่วมกัน กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาสมุทรและประมง นำโดย ฯพณฯ คิม ยังชุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาสมุทรและประมงก่อตั้งแบรนด์ K•Fish ขึ้น นับเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรอง การส่งออกสินค้าประมงภายใต้การบริหารงานโดยรัฐบาลเกาหลี
นายลิม กล่าวว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลส่งออกของ K•Fish มีทั้งสิ้น 11 รายการ ได้แก่ สาหร่ายทะเล, ปลาตาเดียว, หอยเป๋าฮื้อ, สาหร่ายนุ่ม, ปลาไหลทะเล, ปลาหมึกปรุงรส, หอยนางรม, ปูหิมะแดง, ลูกชิ้นปลา และปลาทูน่า (กระป๋องและบรรจุซองอะลูมิเนียมฟอยด์) โดยเน้นการให้ความสำคัญกับคุณภาพอาหาร ทะเลที่ดีเยี่ยม จากลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศ
ของประเทศเกาหลี หรือดำเนินกิจการใน สภาพแวดล้อมที่สะอาดเพื่อการผลิต โดยดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับ มีการตรวจสอบคุณภาพสม่ำเสมอ และมีระบบมาตรฐานการประเมินผล รวมไปถึง การรักษาคุณภาพอย่างเข้มงวด ผู้บริโภคจึงมั่นใจในสินค้าได้ อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันบริษัทยังมีหน้าร้านเป็นของตนเอง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า K Market และ JIDUBANG MARKET โดยเตรียมเปลี่ยนร้าน K Market ที่มีอยู่ มาเป็นร้าน JIDUBANG MARKET ซึ่งปัจจุบันร้านดังกล่าว
มีเพียง 1 สาขาที่รัชดา ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผน และคาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้งานได้ประมาณเดือนมี.ค. 2562 ส่งผลให้ยอดขายปีหน้ามาจากออนไลน์ 20% และในอีก 5 ปีเพิ่มเป็น 60-70%
อย่างไรก็ดี หลังจากบริษัทพยายามพัฒนาระบบในช่องทางออนไลน์ บวกกับนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด ก็เชื่อว่า ยอดขายอีก 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น 272 ล้านบาท จากเมื่อปี 2561 ปิดยอดขายที่ 136 ล้านบาท มาจากแบรนด์ เค•ฟิช ประมาณ 40 ล้านบาท ปี 2562 น่าจะเพิ่มเป็น 70 ล้านบาท