การตลาด - CSR » “สนค. ต่อยอด หุ้นส่วนยุทธศาสตร์การค้าสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 จาก CLMVT สู่สากล”

“สนค. ต่อยอด หุ้นส่วนยุทธศาสตร์การค้าสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 จาก CLMVT สู่สากล”

6 กันยายน 2019
831   0

กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ดำเนินโครงการ หุ้นส่วนยุทธศาสตร์การค้าสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 จาก CLMVT สู่สากล (Sister Cluster)  ซึ่งเป็นโครงการเพื่อต่อยอดสินค้า Sister Cluster ไปสู่ตลาดเป้าหมายในประเทศที่สาม เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของกลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออก ภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ในสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 ไปสู่ประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยได้ต่อยอดสินค้าที่สามารถเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านได้ (Sister Clusters) ใน 2 กลุ่มจังหวัดชายแดน ได้แก่ ผลไม้แปรรูป (ภาคตะวันออก 2 – จ.ไพลิน และ จ.พระตะบอง กัมพูชา) ผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ภาคเหนือตอนบน 2 – จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา)

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “ปั้นผลิตภัณฑ์เกษตร CLMVT สู่ตลาดโลก: ฝันให้ไกลไปให้ถึง” เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2562 ว่า กระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์และยกระดับการค้าระหว่างไทยและ CLMV ให้มากขึ้น โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้จัดงาน CLMVT Forum 2019 ขึ้น และเล็งเห็นว่าควรต่อยอดความร่วมมือเรื่องการพัฒนาห่วงโซ่การค้าของภูมิภาค (Regional Value Chain) ในกลุ่มประเทศ CLMVT

ให้สามารถแข่งขันได้ในโลกยุคใหม่ที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ รวมทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของไทยและ CLMV อีกด้วย ซึ่งโครงการนี้ได้มุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 โดยสินค้าอุตสาหกรรม 4.0 ในการศึกษานี้ มุ่งเน้นการพัฒนา “ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ” และมุ่งเน้นส่งเสริมการผลิต/แปรรูปและความร่วมมือในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตผลไม้แปรรูป และกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งไทยมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการแปรรูป ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรรายย่อยทั้งในจังหวัดของไทยและในฝั่งเพื่อนบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าด้วย เพื่อเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เติบโตไปด้วยกัน

ผลลัพธ์ของโครงการดังกล่าว ได้นำ ไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการของไทยและเพื่อนบ้าน โดยในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2-กัมพูชา ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ มังคุดและมะม่วงแก้วขมิ้นกวน เป็นแบบ 2 in 1 ซึ่งเป็น value chain ระหว่าง วิสาหกิจชุมชนบ้านสวนไร่ป๋า จ.จันทบุรี กับเครือข่ายเกษตรกรใน จ.ไพลิน และพระตะบอง ของกัมพูชา และ น้ำสับปะรดผสมน้ำมะม่วงแก้วขมิ้น เป็น value chain ระหว่างวิสาหกิจชุมชนเช็คอินตราด ฟาร์มเอาท์เล็ท ร่วมกับบริษัทสุพรรณิกามั่งมี จำกัด เป็นผู้ผลิตน้ำสับประรดผสมน้ำมะม่วงแก้วขมิ้น กับเครือข่ายเกษตรกรใน จ.ไพลิน และพระตะบอง ของกัมพูชา ภายใต้ตราสินค้า “ลินจันท์ (Lin Chan)”

 

 

รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้า และ หัวหน้าโครงการ บรรยายเรื่องโอกาสผลิตภัณฑ์ของไทยในตลาดจีน   ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบดังกล่าวเป็นการนำจุดเด่นของสองประเทศมาเสริมกันและสร้างแบรนด์ให้อนุภูมิภาคนี้และในอนาคต มหาวิทยาลัยและวิสาหกิจเพื่อสังคมในพื้นที่จะสานต่อความร่วมมือและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2-เมียนมา ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์สมุนไพร และบาล์มสมุนไพรที่มีส่วนผสมของไพล ขมิ้น และทานาคา ที่มีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อย ผ่อนคลาย และบำรุงผิวพรรณ ซึ่งเป็น value chain ระหว่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรเวียงกือนา จ.เชียงราย กับเครือข่ายเกษตรกรใน จ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา ภายใต้ตราสินค้า “ไตไทย (Tai Thai)”

ผอ.สนค.ได้กล่าวว่า ในอนาคต จังหวัดใน CLMVT ต้องร่วมกันวางยุทธศาสตร์รองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ภายใต้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเทคโนโลยีชีวภาพหรือ Bio-tech และ Agri-tech ที่จะเป็นโอกาสของเกษตรกรที่จะยกระดับรายได้ ซึ่งหาก CLMVT สามารถปรับตัวไปพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วก็จะช่วยให้ผู้ผลิตรายย่อยในห่วงโซ่ได้เกาะเกี่ยวไปสู่ตลาดด้วย ซึ่งผลการศึกษาและแนวการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของกลุ่มจังหวัดฯ และประเทศเพื่อนบ้าน CLMV นี้สามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางให้จังหวัดชายแดนอื่นๆ ต่อไปได้ด้วย